โรคพิษสุนัขบ้าเทียม

โรคนี้เป็นโรคระบาดพบว่าเป็นได้กับสุกรทุกอายุ แต่ความรุนแรงของโรคจะเกิดกับลูกสุกร และสุกรเล็ก อัตราการเกิดโรคและอัตราการตายสูง และสุกรที่ฟื้นจากโรคจะเป็นพาหนะของโรคและสามารถปล่อยเชื้อโรคออกมากับลมหายใจ

สาเหตุและอาการของโรค

เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งเชื้อโรคตัวนี้จะเข้าสู่ร่างกายสุกรได้โดยการสัมผัสกับสุกรตัวที่เป็นพาหนะของโรคนี้ หรือโดยการกินอาหารหรือนํ้าที่มีเชื้อนี้ปนอยู่หรือโดยการหายใจเอาเชื้อนี้เข้าไป หรือโดยการผสมพันธุ์กับสุกรที่เป็นโรคนี้ หรือโดยทางเยื่อบุตา  (หนูบ้านสามารถแพร่เชื้อโรคตัวนี้ได้)  และเมื่อเชื้อโรคตัวนี้เข้าสู่ร่างกายสุกรแล้วโรคนี้จะใช้เวลาในการฟักโรคนานประมาณ 36-48 ชั่วโมง สุกรก็จะเริ่มแสดงอาการปวยของโรคนี้ให้เห็น ซึ่งอาการที่สุกรป่วยแสดงออกนั้นขึ้นอยู่กับอายุคืออาการจะรุนแรงในลูกสุกรแรกคลอด โดยลูกสุกรป่วยจะล้มลงภายในไม่กี่ชั่วโมงภายหลังจากการติดเชื้อ มีไข้สูงถึง180  องศาฟาเรนไฮต์หรือ 42  องศาเซลเซียส สุกรควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ ตื่นเต้น กล้ามเนื้อกระตุกอย่างแรง แล้วล้มลงโดยขาอยู่ในลักษณะถีบจักรยาน  (อาจพบอาการอาเจียนและท้องเสียได้) และนํ้าลายฟูมปาก




ลูกสุกรอาจได้รับเชื้อตัวนี้ก่อนคลอด ซึ่งจะพบลูกสุกรตายภายใน 2 วันหลังคลอด และลูกสุกรที่ได้รับเชื้อตัวนี้ทันทีที่คลอดออกมา อาจแสดงอาการให้เห็นเมื่ออายุ 2 วัน และมักตายเมื่ออายุ5 วัน และพบว่าอัตราการตายของลูกสุกรที่มีอายุตํ่ากว่า 2 สัปดาห์จะสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์และอัตราการตายของลูกสุกรที่มีอายุมากกว่า 3  สัปดาห์ขึ้นไปจะลดลงประมาณ 50  เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากความสามารถในการต้านโรคมีมากขึ้น เมื่อสุกรโตขึ้นและอัตราการตายจะลดลงเหลือเพียง 5  เปอร์เซ็นต์ในสุกรที่มีอายุ 5 เดือนขึ้นไป

อาการที่พบได้ในสุกรรุ่นที่ป่วยคือ มีไข้สูง เบื่ออาหาร ไม่อยู่นิ่ง หายใจลําบากตัวสั่นและควบคุมตัวไม่ได้โดยเฉพาะส่วนของขาหลัง และสุกรป่วยจะชักตายในที่สุด  (สุกรรุ่นที่ฟื้นจากโรคมักจะแคระแกรน)

 

 

 

สภาพอาเจียน (เป็นนํ้าดี) อาจพบได้ในช่วงท้ายๆ

ก่อนตายในลูกสุกรดูดนม ที่เป็นโรค

 

 

 

อาการป่วยที่พบในสุกรใหญ่ มักจะไม่รุนแรง อาการที่พบได้คือ อาเจียน ท้องเสียหรือท้องผูก

อาการป่วยที่พบได้ในสุกรท้อง คือ แท้งลูก

สุกรป่วยที่ฟื้นจากโรคนี้ พบว่ามีภูมิคุ้มกันสูงซึ่งอาจอยู่ได้เป็นปี และแม่สุกรสามารถถ่ายภูมิคุ้มกันโรคนี้ให้แก่ลูกสุกรได้โดยทางนํ้านมเหลือง ซึ่งสามารถป้องกันโรคได้นาน 5 สัปดาห์ถึง 4 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับภูมิคุ้มโรคในนํ้านมเหลืองและปริมาณนํ้านมเหลืองที่ลูกสุกรกินเข้าไป แต่ภูมิคุ้มกันโรคนี้ไม่สามารถป้องกันลูกสุกรจากการติดเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ เพียงแต่ภูมิคุ้มกันโรคนี้จะป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสแทรกเข้าไปในเนื้อเยื่อของลูกสุกรได้เมื่อภูมิคุ้มกันโรคนี้ลดลง สุกรก็จะเริ่มไวต่อเชื้อไวรัสตัวนี้และเมื่อสุกรมีอาการเครียดเชื้อไวรัสภายในตัวก็จะเพิ่มจํานวนมากขึ้นและแทรกเข้าเนื้อเยื่อของร่างกาย ซึ่งเป็นผลให้สุกรตัวนั้นเริ่มแสดงอาการป่วยออกมาให้เห็น

การป้องกัน

โรคพิษสุนัขบ้าเทียม สามารถป้องกันได้โดย

1. ทําวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเทียมตามโปรแกรมที่กําหนดไว้ (ถ้ามีโรคนี้ระบาด)

2. มีการจัดการควบคุมโรคที่เข้มงวด

3. มีการสุขาภิบาลที่ดี

4. มีการเลี้ยงดูและอาหารที่ดี

5. มีการกักโรคและตรวจโรคสุกรใหม่

6. กําจัดหนูแมลงวัน นก แมวและสุนัขที่เข้ามาอยู่ในบริเวณฟาร์ม

โปรแกรมการทําวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเทียม

1. สุกรพ่อและแม่พันธุ์ ทําซํ้าทุกๆ 4-5  เดือน  (วัคซีนเชื้อตาย)  หรือทําวัคซีนกับแม่สุกรท้องก่อนคลอด 3 สัปดาห์และทําซํ้าอีกครั้งก่อนคลอด 1 สัปดาห์

2. สุกรรุ่น ทําวัคซีนเมื่ออายุประมาณ 8-9  สัปดาห์ และให้ทําวัคซีนซํ้าอีกครั้งใน 2 สัปดาห์

การรักษา

โรคพิษสุนัขบ้าเทียมเกิดจากเชื้อไวรัส ไม่มียาที่จะใช้รักษาโดยเฉพาะ นอกจากจะรักษาตามอาการ (ลูกสุกรมักตาย จึงไม่แนะนําให้รักษา)